วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

Future Perfect Continuous Tense


หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense
มีวิธีการใช้เหมือนกับ Future Perfect Tense ต่างกันเพียงตรงที่ Future Perfect Continuous Tense นั้น เน้นการกระทำหรือเหตุการณ์ที่ ดำเนินอยู่ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งและยังคงจะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต โดยมักใช้กับ for + เพื่อแสดงระยะเวลาของเหตุการณ์ หรือ การกระทำนั้นๆ เช่น
-By 2012, we will have been living in Bangkok for 7 years.
(ในปี 2012 ก็จะครบรอบที่เราออยู่ในกรุงเทพเป็นเวลา 7 ปีแล้ว)
-In 5 minutes, I will have been working for 12 hours.
(ในอีกห้านาทีนี้ ผมก็จะทำงานครบ 12 ชั่วโมงพอดี)
ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่ ต้องการเน้นความต่อเนื่องของการกระทำใดการกระทำหนึ่งในอนาคต โดย
¨เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน จะใช้ Future Perfect Continuous Tense
¨เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลัง จะใช้ Present Simple Tense
เช่น He shall have been cleaning his room for an hour when I visit him.
(เขาน่าจะกำลังทำความสะอาดห้องของเขาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้วในตอนที่ฉันไปหาเขา)

Past Perfect Continuous Tense


หลักการใช้ Past Perfect Continuous Tense
ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นและดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต โดยอาจใช้กับคำว่า since และ for เช่น
- She had been shouting for help since she fell down the stairs. (เธอได้ร้องขอความช่วยเหลือตั้งแต่เธอได้ตกบันไดลงมา)
ใช้พูดถึงการกระทำที่ เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาในอดีต และได้สิ้นสุดลงแล้ว เช่น
- I had been smoking for 5 months. (ฉันเคยสูบบุหรี่มาเป็นเวลาห้าเดือน)
Past Perfect Continuous Tense จะ เน้นถึงความต่อเนื่องของการกระทำ (Continuity of action) มากกว่า Past Perfect Tense


Present Perfect Continuous Tense



หลักการใช้ Present Perfect Continuous Tense
ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในอดีตต่อเนื่องมายังปัจจุบัน และยังคงดำเนินต่อไปอีกในอนาคตโดยใช้กับคำว่าsinceและforเช่น
-She has been sittinghere for an hour. (เธอนั่งอยู่ตรงนี้มาเป็นเวลาชั่วโมงหนึ่งแล้ว)
คำกริยาที่ใช้กับ Present Perfect Continuous Tense นั้น จะต้องเป็นคำกริยาที่แสดงถึงความต่อเนื่องหรือ กริยาที่แสดงถึงการกระทำที่นาน (long action) เท่านั้น เช่น play, look, watch, learn, live, wait, eat และอื่นๆ โดยไม่สามารถใช้กับกริยาที่ไม่แสดงถึงความต่อเนื่อง หรือ กริยาที่แสดงถึงการกระทำที่จบในทันทีได้ เช่น stop, prefer, arrive เป็นต้น เช่น
- I have been playinggames since afternoon. (ฉันเล่นเกมส์มาตั้งแต่ตอนบ่าย)
Present Perfect Continuous Tense อาจนำมาใช้ได้กับเหตุการณ์ที่ สิ้นสุดลงแล้ว แต่ส่งผลมายังปัจจุบันเช่น
- You look tired.Have you been sleepingproperly? (คุณดูเหนื่อยจัง คุณได้นอนหลับมาเพียงพอหรือเปล่า)

Present Perfect Continuous Tense จะ เน้นถึงความต่อเนื่องของการกระทำ (Continuity of action)มากกว่า Present Perfect Tense

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

Future Continuous Tense




หลักการใช้ Future Continuous Tense
ใช้กับเหตุการณ์ที่ กำลังจะเกิดขึ้นตามวันหรือเวลาที่กำหนดไว้ในอนาคตอย่างชัดเจน โดยจะสื่อความหมายออกมาว่า เมื่อถึงวันและเวลาที่กำหนดไว้แล้ว เราก็จะเห็นเหตุการณ์นั้นดำเนินอยู่ เช่น
-He will be finishing his work at 7 o’clock. (เขาจะทำงานของเขาเสร็จตอนเจ็ดโมงเช้า)
ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่ คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน เช่น
-You will be laughing when you see her with that dress. (คุณจะต้องขำแน่ๆถ้าคุณเห็นเธออยู่ในชุดนั้น)
ใช้กับ เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดไม่พร้อมกันในอนาคต โดย
¨เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน จะใช้ Future Continuous Tense
¨เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลัง จะใช้ Present Simple Tense

เช่น I will be watching movies when you cook dinner. (ฉันจะกำลังดูหนังอยู่ในขณะที่คุณทำกับข้าวมื้อเย็น)


Past Continuous Tense



หลักการใช้ Past Continuous Tense

ใช้เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ เกิดขึ้นในอดีต ในช่วงเวลาที่บ่งไว้อย่างชัดเจน เช่น
-I was taking a shower at eight o’clock last night. (ฉันกำลังอาบน้ำอยู่เมื่อวานตอนสองทุ่ม)
ใช้เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นซ้อนกันในอดีต โดย
¨เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นและดำเนินอยู่ จะใช้ Past Continuous Tense
¨เหตุการณ์สั้นๆนั้นได้เข้ามาแทรก จะใช้ Past Simple Tense
เช่น I met you boyfriend in the park while I was jogging. (ฉันเจอแฟนคุณในสวนตอนฉันกำลังวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่)
ใช้เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นควบคู่กันไป ณ เวลาเดียวกัน (Parallel Actions) โดย เหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์จะใช้ Past Continuous Tense เช่น
-I was sleeping while the teacher was teaching, (ฉันนอนหลับขณะที่คุณครูกำลังสอนอยู่)
เรามักใช้คำว่า when, while, as ใน Past Continuous Tense เพื่อเชื่อมเหตุการณ์ ต่างๆเข้าด้วยกัน เช่น

-As I was going to the church, he was going to the sea. (ขณะที่ฉันกำลังเดินทางไปที่โบสถ์ เขาก็กำลังไปทะเล)

Present Continuous Tense


หลักการใช้ Present Continuous Tense
 ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่ กำลังดำเนินอยู่ในขณะที่พูด ต่อเนื่องไปเรื่อยๆและจบในอนาคต โดยอาจจะใช้ Adverbs of Time (คำกริยาวิเศษณ์ บอกเวลา) บางคำ เช่น now, at the moment, right now, at present, these days เป็นต้น เข้ามาช่วยในประโยคด้วย เช่น
-She is going to the supermarket at the moment. (หล่อนกำลังไปซุปเปอร์มาร์เกตอยู่ตอนนี้)
ใช้เพื่อพูดถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น
-I am meeting my boss this evening. (ฉันจะพบกับเจ้านายเย็นนี้)
ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่ ผู้พูดมั่นใจว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน เช่น
-He is going to China tonight. (เขาจะเดินทางไปยังประเทศจีนคืนนี้)
กริยาบางตัวไม่สามารถใช้ในรูปของ Present Continuous Tense ได้ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์นั้นจะกำลังเกิดขึ้น หรือ ดำเนินอยู่ก็ตาม โดยเรามักใช้ในรูปของ Present Simple Tense กับคำกริยากลุ่มนี้แทน ซึ่ง ได้แก่
¨ กริยาที่แสดงถึงประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่น see, hear, feel, taste, smell
-I smell something bad. (ถูก)
-* I am smelling something bad. (ผิด)
¨กริยาที่แสดงความนึกคิด ความรู้สึก เช่น know, understand, think, believe, agree, notice, doubt, suppose, forget, remember, consider, recognize, appreciate, forgive
-I believe her. (ถูก)
-* I am believing her. (ผิด)
¨กริยาที่แสดงความชอบและความไม่ชอบ เช่น like, dislike, love, hate, prefer, trust, detest
-He likes a woman with long hair. (ถูก)
-* He is liking a woman with long hair. (ผิด)
¨กริยาที่แสดงความปรารถนา เช่น wish, want, desire, prefer
-I want to get married. (ถูก)
-* I am wanting to get married. (ผิด)
¨กริยาที่แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น possess, have, own, belong
-She has no children. (ถูก)

-* She is having no children. (ผิด)

Future Perfect Tense



หลักการใช้ Future Perfect Tense
ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่ คาดว่าจะสิ้นสุดในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในอนาคตโดยมักใช้กับ by +(by next week, by next month by the end of this year, by 2012, by 6 o’clock, etc.)เช่น
-I will have completedmy work by tomorrow. (ฉันจะทำงานของฉันเสร็จสมบูรณ์ในวันพรุ่งนี้)
ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่คาดเดาว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตโดย
¨เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะใช้Future Perfect Tense
¨เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจะใช้Present Simple Tense เช่น

The kidswill have woken upwhenwe reach home. (เด็กๆคงจะตื่นกันตอนเรากลับไปถึงบ้าน)

Credit : http://www.dek-eng.com