วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

Present Perfect Tense


หลักการใช้ Present Perfect Tense
ใช้กับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมายังปัจจุบัน และมีแนวโน้นที่จะดำเนินต่อไปได้อีกในอนาคต เช่น
¨I have had a lot of toys. ฉันมีของเล่นมากมาย (และอาจจะมีของเล่นเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต)
ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังส่งผลมายังปัจจุบัน เช่น
¨It has stopped raining. ฝนหยุดตกแล้ว (แต่ถนนยังเปียกอยู่)
ใช้พูดถึง เหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆกัน ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างอดีตและปัจจุบัน โดยมักใช้คำว่า many/several times, a lot of times, …times, again and again, over and over และอื่นๆ เช่น
¨I’ve read this book more than 3 times. (ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้มามากกว่าสามรอบแล้ว)
ใช้กับเหตุการณ์ที่ เพิ่งสิ้นสุดลง โดยไม่ระบุเวลา ซึ่งมักใช้กับ just, already และ yet
yet มักใช้ในประโยคปฏิเสธ ส่วน just และ already นั้น มักจะใช้กันในประโยคบอกเล่า โดยวางไว้อยู่หน้ากริยาหลัก เช่น
¨I haven’t finished my homework yet. (ฉันยังทำการบ้านของฉันไม่เสร็จเลย)
¨I have just finished my home work. (ฉันเพิ่งทำการบ้านของฉันเสร็จ)
¨I’ve already finished my homework. (ฉันทำการบ้านของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว)
หากเราระบุเวลาลงไป ประโยคจะต้องใช้ Past Simple Tense เท่านั้น ไม่สามารถใช้ Present Perfect Tense ได้ เช่น
¨I finished my homework at 7 o’clock. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้วตอนเจ็ดโมงเช้า)
ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ซึ่งมักใช้กับ just, recently, lately และอื่นๆ
¨The meeting has just started. (การประชุมเพิ่งจะเริ่มขึ้น)
¨Have you seen him lately? (คุณได้เจอเขาเมื่อเร็วๆนี้บ้างไหม)
ใช้กับ since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา)
¨I have been here since I was about 15 years old. ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 15 (ปัจจุบันฉันก็ยังคงอยู่ที่นี่)

¨I have had a fever for almost a week. ฉันเป็นไข้มาประมาณอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว (ปัจจุบันฉันก็ยังคงเป็นไข้อยู่เช่นเดิม)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น